คิดอย่างไรจึงจะคิดอย่างนักปราชญ์

Teach yourself to think ตั้งแต่โบราณกาล มนุษย์ถูกสอนให้รู้จักวิธีคิดในแนวต่าง ๆ จากนักปราชญ์ ในซีกโลกทางตะวันตกจะมีนักปราชญ์ชื่อดังอยู่หลายท่าน อาทิเช่น โซเครติส เพลโต อริสโตเติล เป็นต้น ซึ่งท่านเหล่านี้ จะมีแนวการสอนที่แตกต่างกัน คือ

1.โซเครติส สอนเกี่ยวกับการแสวงหาความเป็นจริง โดยการชี้ให้เห็นสิ่งที่ถูกและผิด แต่ไม่ได้เสนอทางออกของปัญหา

2.เพลโต สอนให้ยึดกฎเกณฑ์แบบแผนที่ถูกต้อง หากมีสิ่งใดที่ไม่ตรงกับมาตรฐานนี้ จะต้องฉุกคิดว่าอาจมีสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้น

3.อริสโตเติล สอนให้รู้จักวิธีคิดแบบ วิเคราะห์ แยกแยะข้อมูล เป็นประเภทต่าง ๆ อย่างละเอียด

กล่าวโดยสรุป มนุษย์เราถูกกำหนดโดยกรอบความคิดอยู่เพียง 4 แบบ คือ

1) คิดวิพากษ์วิจารณ์

2) คิดโต้แย้ง คิดตัดสินว่า ใช่หรือไม่ใช่

3) คิดหาเหตุหาผล

4) คิดแบบใช้วิจารณญาณ ดีหรือไม่ ถูกต้องหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน มีคนคิดว่ากรอบความคิดแบบเดิม ไม่สามารถนำมาใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันได้ครบทุกด้าน เขาผู้นั้นคือ Edward de Bono ซึ่งเชื่อว่า คนที่ฉลาดปราดเปรื่องบางทีก็คิดไม่เป็น แต่ในขณะที่บางคนหัวสมองปานกลาง แต่กลับมีวิธีคิดอันหลักแหลม เขาเป็นผู้เขียนเรื่องราวที่ว่าด้วยวิธีคิดในแนวต่าง ๆ ในหนังสือเรื่อง Teach Yourself to Think เขากล่าวไว้ว่า มนุษย์เราน่าจะมีวิธีคิดเป็น 5 ประเภท ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ได้แก่

1. การคิดเพื่อจะหาจุดมุ่งหมายให้รู้ว่า ที่คิดอยู่นี้คิดไปทำไม มีประโยชน์หรือไม่ และควรจะคิดต่อไปหรือเลิกคิด

2. การคิดเพื่อจะหาข้อมูลว่า คิดไปเพื่ออะไร เช่น คิดเพื่อแก้ปัญหา หรือคิดเพื่อตัดสินใจ เป็นต้น และเพื่อจะหาวิธีการลงมือกระทำ และค้นหาว่า วิธีไหนเป็นวิธีที่ดีที่สุด

3. การคิดเพื่อหาทางเลือก หาความเป็นไปได้ โดยความเป็นไปได้นี้แบ่งได้หลายระดับ คือ มีความเป็นไปได้มาก หรือเป็นเพียงแค่การฝันกลางวัน หรือในเวลานี้ยังขาดปัจจัยหลาย ประการ จึงมีความเป็นไปได้น้อยมาก

ในการหาข้อมูลที่มีความเป็นไปได้นั้น ต้องหาไว้มากกว่าหนึ่งวิธี และต้องสามารถจัดระดับความเป็นได้ว่า อันไหนเป็นไปได้มากกว่ากัน และต้องทำด้วยวิธีใด ตามลำดับก่อนหลัง นอกจากนั้น ในการหาข้อมูลที่มีความเป็นไปได้ ต้องหัดมองในมุมตรงข้ามด้วย เพราะอาจจะทำให้มองเห็นหนทางในอีกมุม ที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน

4. การคิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา ได้แก่

- มีสิ่งใดเกิดตามมาได้บ้าง

- ตัวเรากับคนรอบข้างยอมรับได้หรือไม่

- มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน และทำอย่างไรจึงจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอันนั้นได้

- ที่สำคัญที่สุด คือ สิ่งเหล่านี้ จำเป็นต้องทำในตอนนี้หรือไม่ และด้วยเหตุใด และหากไม่ทำตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้น

ในการคิดพิจารณาทั้ง 4 ประการที่กล่าวมานี้ ควรกระทำในขณะที่จิตว่าง สดใส ไม่ฟุ้งซ่าน จึงจะได้ข้อมูลในการตัดสินใจที่แม่นยำมากที่สุด

5. การคิดเกี่ยวกับการลงมือกระทำ

- ก่อนอื่นต้องเตรียมแผนสำรองไว้ก่อน อย่าเพิ่งเริ่มทำหากยังไม่มีแผนสำรอง

- พิจารณาเกี่ยวกับบุคลากรที่เราจะต้องร่วมงานด้วย

- ทำอย่างไรจึงจะทำให้ผู้อื่นเห็นพ้อง และอยากทำงานกับเรา

- อย่าคาดหวังว่าผู้ร่วมงานน่าจะรู้เองว่า ควรทำอะไรบ้าง แต่ให้จัดตั้งกลุ่มผู้รับผิดชอบ และมอบหมายงานไปเลย หลังจากนั้นให้ติดตามผลเป็นระยะ

- ให้หาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับงานนั้น ๆ มาร่วมงาน เพราะผู้ที่เชี่ยวชาญในสายงานนั้น จะมีความเข้าใจงานอย่างถ่องแท้ และสามารถซักถามในสิ่งที่จำเป็น และเหมาะสมในการทำงานนั้น ๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญมักมีจุดอ่อนตรงที่จะไม่ค่อยกล้าเสี่ยงเพราะกลัวเสียชื่อเสียง ดังนั้น การรับฟังคำปรึกษาใด ๆ ต้องกลั่นกรองพิจารณาอีกชั้นหนึ่งด้วย และเราต้องเป็นผู้ตัดสินใจเอง ว่าจะลงมือทำตามคำปรึกษาหรือไม่ เพราะเหตุใด

- ต้องหาคน หรือกลุ่มคน หรือหน่วยงานมาช่วยทำงานด้วย อย่าคิดว่าเราจะสามารถดำเนินงานได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยตัวคนเดียว

Three Key Survival Skills for New Business Owners

The first year of a new business is the toughest. It's the make-it-or-break-it year. The challenges a new business owner faces on a daily basis require three key survival skills: self-reliance, self-direction, and resilience. No matter how brilliant the business idea, without these three skills entrepreneurs risk failure.
  • Self-Reliance

It's a fact of life that every small business owner wears many hats to fill all functions: operations, sales, marketing, finance, human resources-even janitor and chief coffee-maker when needed. Unlike life in corporate America, where each employee has a specialized area of expertise, a new business owner must excel in all of the disciplines required to keep a small business running smoothly. The revenue drain of hiring employees can spell disaster for struggling new businesses.

Self-reliance means more than wearing many hats. It also means depending on self for motivation, discipline and decision making and accountability. The true entrepreneur doesn't need a cheering squad to keep going. The self-reliant business owner is highly skilled at "picking himself up by the boot straps." Without that all-important sense of self-reliance, critical decisions will be delayed and opportunities will be missed.

If you find yourself lacking self-reliance, do a total skills inventory to identify the gap that is holding your business back from prospering to your expectations. Rate yourself on a scale of one to four on each skill needed to run your business. Identifying which skills you are deficient in is the first step toward getting help to solve the problem.

  • Self-Direction

One of the toughest challenges for new business owners is strategic planning: the ability to plan for multiple contingencies to reduce risk of failure. The self-directed entrepreneur analyzes market conditions to anticipate setbacks and defines alternative revenue sources to avoid costly earnings slumps.

Equally important, the self-directed business owner should be efficient in executing daily, weekly and monthly activities crucial to maintaining a continual sales pipeline and revenue stream. A successful entrepreneur needs no supervisor to keep him on track.

Unfortunately, not many people excel at both strategic planning and day-to-day tactical efforts. If you are an entrepreneur who gravitates to "the big picture," daily and weekly task lists will help keep you on track toward your revenue goals. Invest in tools to minimize your busy work so that important data like customer contact information can be easily accessed, yet maintained with minimal effort.

On the flip side, highly detail-oriented business owners without a strategic plan suffer from lack of direction. Make time at least quarterly to consider questions like: "What could I do long-term to improve the efficiency of my operations?" or "What could I be doing differently to attract the kind of customers I prefer?"

  • Resiliency

While it is often true that persistence pays off, resiliency is a more essential skill to new business owners. Resiliency is the ability to change direction when needed. It is the 'bounce back" effect that is truly necessary to avoid business failure.

In business, change is constant:

* Economic conditions can reduce consumer spending

* Shifts in consumer tastes make your product out-of-date

* Improvements in technology make your inventory obsolete

Any or all of these things can mean increased competition and loss of market share for your business. You have to be prepared to deal with them--before they happen.

Those who lack resiliency fall victim to self doubt that all too often means the end of a promising new business. To increase resiliency, practice the old-fashioned skill of "getting back on the horse." When things don't work out as planned, do not stop to anguish over the situation. Immediately consider the best alternative actions to take. Take action as soon as possible. Even a less-than-perfect action plan will get you moving in a positive direction and avoid the stall of self doubt and despair.

A new business owner who builds up his or her self-reliance, self-direction and resiliency will greatly increase the odds of surviving that first year in business. And after the first year, your survival skills will ensure that you are well on your way to many more years of success. credit by Deborah Walker